สคช. ผนึก 36 ภาคีเครือข่ายสัมมาชีพ สานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) และนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ สคช. ร่วมในงานครบรอบ 10 ปี มูลนิธิสัมมาชีพ ประจำปี 2562 ระหว่างงานนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อพลังงานเพื่อชุมชนกับการสร้างเศรษฐกิจฐานรากซึ่งได้เน้นย้ำชุมชนเป็นฐานรากสำคัญของประเทศ หากชุมชนอ่อนแอ รัฐมีหน้าที่ในการสร้างสมดุล สร้างพื้นฐานให้สังคม กำหนดกติกา

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่านโยบายรัฐจะดีหรือไม่ดีมีภาคเอกชนเป็นตัวหลักสำคัญ ถ้าเอกชนอ่อนแอรัฐเองก็ต้องร่วมผลักดัน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ประเทศแข็งแกร่ง ตราบเท่าที่ชุมชนยังอ่อนแอ การทำให้ชุมชนแข็งแรงต้องใช้เวลาเห็นผลช้า และเป็นเรื่องที่มูลนิธิสัมมาชีพกำลังดำเนินการ เพราะชุมชนเป็นหัวใจของอนาคต เป็นเรื่องสำคัญที่มูลนิธิสัมมาชีพต้องช่วยกัน เพราะหากทำให้ชุมชนแข็งแรงไม่ได้ ความมั่งคั่งยั่งยืนก็จะไม่เกิด ซึ่งกระทรวงพลังงานก็มีแนวคิดสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ชุมชนด้วยการใช้ความแข็งแรงของภาคเกษตรสู่ความมั่งคั่ง ทำให้เกิดเป็นรายได้ ล่าสุดกำลังดำเนินการ นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อทำให้ภาคเกษตรเข้มแข็ง เอาความเข้มแข็งมาแปรรูปเป็นพลังงาน เอาวัสดุเหลือใช้มาผลิตไฟฟ้า เอาของที่ทิ้งมาผลิตไฟฟ้า ชุมชนก็จะเกิดรายได้ ครัวเรือนมีรายได้เพียงพอ เป็นการใช้พลังงานปฏิรูปภาคเกษตรสร้างรายได้จากพลังงาน

โดยในงานวันนี้ ดร.นพดล ยังได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ 36 องค์กรภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการจะร่วมกันขับเคลื่อนงานสานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคนให้พึ่งพาตัวเองได้ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโอกาสกับชุมชนในการพลิกชีวิต เพื่อขับเคลื่อนสังคม ขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน